Luffy
พระเอกของเรื่อง และเป็นกัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ใฝ่ฝันอยากเป็นราชาแห่งโจรสลัด ตอนเด็กได้รู้จักกับแชงคูลจึงอยากเป็นโจรสลัดเหมือนแชงคูส ได้กินเหล้าร่วมสาบานกับเอสและซาโบเพื่อเป็นพี่น้องกัน พลังความมุ่งมั่นสูง เมื่อตั้งใจแล้วต้องทำให้ได้ และพึ่งพาได้ รักเพื่อนพ้องที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็จะต้องช่วยเพื่อนไว้ให้ได้ ได้กินผลโกมุโกมุ (พารามิเซีย) ถึงแม้ความสามารถไม่โดดเด่นแต่สามารถนำทักษะมาร่วมกับพลังใจที่มุ่งมั่นและความสามารถ ทำให้ดึงพลังในการต่อสู้ได้สูงมาก ไปก่อเรื่องที่โดยกำจัด 1 ในเจ็ดเทพโจรสลัด จนรัฐบาลโลกเริ่มสั่งไล่ล่าทั้งกลุ่ม หลังจากบุกเอนิสเอส ล็อบบี้กับทริลเลอร์ บาร์ค ไปชาบอนดี้เพื่อหาช่างคลุมเรือ แล้วลูฟี่ไปทำร้ายชาวมังกรฟ้า ถูกคุมะช่วยจากพวกคิซารุโดยทำให้ทั้งกลุ่มหมวกฟางกระจัดกระจายกันไป โดยลูฟี่ส่งไปที่อเมซอนลิลลี่ เมื่อได้ข่าวเรื่องที่เอสกำลังถูกประหารจึงได้ขอร้องให้แฮนค็อกช่วยลักลอบพาตนไปช่วยเอส ในคุกนรกอิมเพลดาวน์ แต่ว่าไปได้ทางเข้าเท่านั้น แล้วลูฟี่จึงพยายามลงไปชั้นล่างแต่ละชั้นได้เจอกับบากี้ Mr.3 Mr.2 แล้วสู้กับแมกเจนแลนจนโดนพิษเข้าไปทำให้ต้องให้อิวานคอฟช่วยรักษา พอหายดีจึงลงไปช่วยเอสแต่เอสถูกส่งตัวไปแล้วจึงต้องปล่อยตัวครอกโคไดล์และจินเบ แล้วคิดเข้าร่วมสงครามโดยปล่อยนักโทษในอิมเพลดาวน์ เพราะการเสียสละของ Mr.2 จึงเข้าร่วมสงครามได้ เมื่อสงครามเกิดขึ้นที่มารีนฟอร์ดพวกลูฟี่ร่วมมือกับหนวดขาวเพื่อช่วยเอสพอช่วยได้ตอนที่พยายามหนีออกจากเกาะนั้นเอสปกป้องลูฟี่จนเสียชีวิตโดยก่อนตายเอสพึงพอใจแล้วกับชีวิต จินเบจึงพยายามพาลูฟี่ที่หมดสติจากอาการบาดเจ็บทั้งหมดออกจากเกาะ แต่ได้แผลที่อกเป็นกากบาทจากการโจมตีของอาคาอินุ เพราะพวกลอว์มาช่วยไว้จึงออกไปได้ หลังจากจบสงคราม ลูฟี่จินเบได้รับการรักษาจากลอว์พอลูฟี่ตื่นขึ้นก็เศร้าใจเรื่องเอสจนนึกถึงอดีตในสมัยเด็กที่เจอเอสจนถึงตอนที่ตนออกเดินทางเป็นโจรสลัดจนรู้ว่าตนอ่อนแอ ทำให้ลูฟี่ไม่สนใจทุกสิ่ง แต่เพราะได้รับการเตือนสติจากจินเบจนทำให้ลูฟี่เข้าใจ ลูฟี่ร่วมมือกับจินเบและเรย์ลี่ไปก่อเรื่องที่ศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ เพื่อบังหนังแต่แท้จริงคือส่งสารให้สมาชิกในกลุ่มว่ารวมตัวในอีก 2 ปี เพื่อฝึกฝนให้ได้ก่อนเข้าโลกใหม่ ซึ่งลูฟี่ไปฝึกเรื่องของฮาคิจากเรย์ลี่ 2 ปีต่อมาฝีมือของลูฟี่พัฒนาขนาดใช้เกียร์แล้วร่างกายรับไหว สามารถใช้ฮาคิ ได้ 3 ประเภทได้รวมตัวกับกลุ่มอีกครั้ง ได้จัดการกับโฮดี้ แล้วประกาศสงครามกับบิ๊กมัม พอเข้าโลกใหม่ ร่วมมือกับลอว์จับตัวซีซาร์ แล้วสู้กับโดฟลามิงโก้ เพื่อทำสงครามกับไคโด โดยไคโดเป็น 4 จักรพรรดิคนแรกที่ถูกหมายหัว กับไปพาตัวซันจิกลับมาเพื่อเตรียมกำลังรบ
ฮาคิ
- ฮาคิเกราะ (อังกฤษ: Busoshoku haki) คือ พลังที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ในการโจมตีและสะท้อนการโจมตีได้ และยังสามารถใช้ฮาคิชนิดนี้เคลือบไว้กับสิ่งของต่างๆที่ใช้เป็นอาวุธได้อีกด้วย และที่พิเศษสุดๆคือสามารถใช้เพื่อสัมผัสร่างกายที่แท้จริงของผู้มีพลังพิเศษสายโลเกียที่มีร่างกายเป็นสสารต่างๆเพื่อใช้ในการต่อสู้ได้ ฮาคิประเภทนี้ไม่สามารมองเห็นได้แต่เวลาใช้ฮาคิประเภทนี้มักจะมีสีดำๆตรงส่วนที่ใช้ฮาคิอยู่เพื่อบอกให้รู้ว่ากำลังใช้ฮาคิเกราะ เป็นฮาคิที่สามารถฝึกฝนและใช้ได้ทุกคน
- ฮาคิการสังเกต (อังกฤษ: Kenbunshoku haki) คือ พลังที่ไว้ใช้รับรู้สิ่งต่างๆได้ เช่น การเคลือนไหวของ วัตถุ สิ่งมีชีวิต สิ่งต่างๆรอบๆตัว แม้หลับตาอยู่ก็สามารถรู้สึกถึงตัวตนขอสิ่งนั้นๆได้ เป็นฮาคิที่สามารถฝึกฝนและใช้ได้ทุกคน เพื่อเพิ่มประสามสัมผัสในตัวบุคคล แต่ฮาคิประเภทนี้สามารถพัฒนาได้เป็นฮาคิสังเกตระดับเทพได้แต่ได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น นั่นก็คือการรับรู้ถึงตัวตนที่อยู่ไกลออกไปเป็นบริเวณกว้างเช่น เห็นภาพหรือได้ยินเสียงจากตำแหน่งของสิ่งที่อยู่ไกลเกินสายตาได้อีกด้วย ฮาคิสังเกตระดับเทพที่ปรากฏแล้ว มี ไอซ่า โคบี้ และ อูซป
- ฮาคิราชันย์ (อังกฤษ: Haoshoku Haki) คือ พลังที่ปล่อยพลังจิตแบบ ข่มขวัญ คุกคาม ฝ่ายตรงข้าม ให้ยอมจำนน โดยการหมดสติ ระยะหวังผลขึ้นอยู่กับการฝึกฝน สามารถกำหนดขอบเขตการใช้ได้หากฝึกจนเชี่ยวชาญแล้ว ฮาคิประเภทนี้ใช้ได้กับทุกสิ่งมีชีวิต ยกเว้นผู้ที่มีจิตกล้าแข็งจึงจะไร้ผล หรือสิ่งไม่มีชีวิต เป็นฮาคิที่มีเพียงคนจำนวนหยิบมือบนโลกเท่านั้นประมาณ 1 ใน หลายล้านคน ที่สามารถใช้ฮาคิประเภทนี้ได้ เป็นฮาคิที่ต้องมีมาตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถผึกฝนได้ ผู้ที่ใช้ฮาคิประเภทนี้เป็นผู้มีคุณสมบัติของราชันย์ ปัจจุบันที่รู้ผู้ใช้แล้วมี ลูฟี่ เอส แฮนค็อก โดฟลามิงโก้ แชงค์ หนวดขาว และ เรย์ลี่ย์
ลักษณะนิสัย
ลูฟี่เป็นคนรักการผจญภัยจนลืมห่วงเรื่องความปลอดภัย ชอบกินเนื้อสัตว์มาก และ เป็นคนโกหกไม่เป็นซึ่งตรงข้ามกับ "อุซป"ที่พูดโกหกเก่งมาก นอกจากนี้ลูฟี่มักจะสวมหมวกฟางตลอดเวลาเพราะแชงคูสให้และแชงคูสบอกว่าจะเอาหมวกฟางคืนก็ต่อเมื่อลูฟี่ได้เป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว และเป็นคนรักเพื่อนพ้องเป็นที่สุด
solo
โซโรเป็นนักล่าค่าหัวผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบเป็นอาวุธ โดยมีดาบ 3 เล่มเป็นอาวุธประจำตัว มีความใฝ่ฝันเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ตามที่ให้สัญญาไว้กับ คุอินะ เพื่อนสมัยเด็กที่เสียไป หลังจากนั้นถูกนาวาโทมอร์แกนมือขวานจับตัวไปและเจอกับลูฟี่ ลูฟี่เข้ามาช่วยโซโรไว้ และโซโรยังร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ด้วย และโซโรเองมีค่าหัว 60 ล้านเบรี หลังจากที่จัดการดาซูบอเนส หรือมิสเตอร์วัน แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุซึ่งเป็นหนึ่งใน CP9
ดาบประจำตัวที่โซโรพกไว้เสมอตั้งแต่แรกคือ ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนยิ (เป็นดาบที่จะคาบไว้ที่ปากเวลาใช้ท่าสามดาบ) ซึ่งเป็นดาบที่รับช่วงมาจากเพื่อนสมัยเด็กและสาบานว่าจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ดาบอื่นที่ใช้ในปัจจุบันอีกสองเล่มคือดาบสีแดง ซังได คิเทซึ เป็นดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อกทาวน์ และ ดาบดำ ชูซุย ซึ่งได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ ริวมะ (ว่ากันว่าเป็นตัวเอกจากนิยายของ อ.โอดะ แต่เขากลับป่วยจนเสียชีวิต จึงได้เป็นแขกรับเชิญในร่างซอมบี้) ที่ธริลเลอร์บาร์ค จึงทำให้บรู๊ค (สมาชิกเรือเธาด์ซัน ซันนี่คนล่าสุด) ได้เงาของเขากลับคืนมา
โซโรนั้นเคยพบกับเรือตรีหญิงแห่งกองทัพเรือ ทาชิงิ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับคุอินะมาก แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่ระแวงเลยว่าอีกฝ่ายคือกองทัพเรือและโจรสลัด จนกระทั่งมารู้เอาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม โซโรไม่กล้าประชันดาบกับเธอ และมักหลีกเลี่ยงอยู่เสมอเพราะไม่อาจลืมภาพคุอินะไปได้
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของโซโรคือนักดาบอันดับหนึ่งของโลก จูลาคีล มิฮอว์ค เจ้าของฉายาตาเหยี่ยว โซโรเคยประชันกับมิฮอว์คมาครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ลูฟี่กับเขาไปที่ร้านอาหารกลางทะเลที่ซันจิอยู่และพ่ายแพ้ หลังจากนั้นเป็นเวลานานที่เกาะชาบอนดี้ โซโรที่สะสมความเหนื่อยล้าไว้มากต้องเข้าสู้กับบาโซโลมิว คุมะและเกือบถูกฆ่าโดยคิซารุ แต่ถูกช่วยชีวิตไว้จากราชันย์นรกเรลี่ จากนั้นจึงถูกหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด บาโซโลมิว คุมะซัดกระเด็นไปที่ซากราชอาณาจักรเก่า ที่นั่นเขาได้พบกับมิฮอว์คอีกครั้ง ในเวลานั้นข่าวที่ลูฟี่สูญเสียเอสไปได้มาถึง โซโรจึงดึงดันจะออกจากเกาะไปพบลูฟี่ แต่เมื่อได้รับรหัสที่ลูฟี่ส่งมา จึงเปลี่ยนใจและกลับไปก้มหัวขอให้มิฮอว์คเป็นคนสอนวิชาดาบแก่ตนเอง มิฮอว์คเข้าใจนิสัยโซโรเป็นอย่างดี จึงรับปากสอนหลังจากแผลของโซโรหายดี
บุคลิกและนิสัย
โซโรเป็นคนจริงจัง ขี้เซา หลับง่าย ชอบดื่มเหล้า หลงทางบ่อย ไม่เชื่อในพระเจ้า และพูดตรงไปตรงมา ถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกับซันจิ แต่เขาก็ไม่ชอบซันจิสักเท่าไร จึงมักชอบหาเรื่องกับซันจิจนทั้งคู่ต้องทะเลาะกันเป็นประจำ จนซันจิให้ฉายาส่วนตัวแก่เขาว่า "เจ้าหัวเขียวสาหร่าย"/"เจ้าหัวมอส" ส่วนซันจิก็ได้ฉายาจากโซโรว่า "เจ้าคิ้วยากันยุง"/"เจ้าคิ้วม้วน" เช่นกัน แต่ถึงภายนอกจะไม่แสดงออกเท่าไร โซโรก็เป็นคนที่รักเพื่อนฝูงอย่างมาก เมื่อถึงเวลาต่อสู้จะจริงจังเสมอ แล้วยังชอบกินปลา และตกปลาอีกด้วย โดยปลาที่ตกได้บ้างเป็นปลาธรรมดาไม่ก็จ้าวทะเล โดยโซโรมีส่วนคล้ายซันจิตรงที่ไม่ฟันผู้หญิง แต่จะโจมตีให้สลบไป หรือผู้หญิงที่มีพลังพิเศษสายโรเกียจะโจมตีโดยไม่ใช้ฮาคิแต่จะใช้ฮาคิเพื่อขู่ หลอกล่อหรือป้องกันตัว
ดาบของโซโร
โซโรเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดในการต่อสู้โดยใช้ดาบเป็นอาวุธ เขาสามารถสู้ด้วยดาบ 1 ถึง 3 เล่มพร้อมกันได้ แต่จะสู้ได้ดีที่สุดหากใช้ดาบทั้ง 3 เล่มพร้อมกัน สำหรับดาบของโซโร มีดังนี้
- ดาบสีขาว วาโด อิจิมอนจิ (ญี่ปุ่น: 和道一文字 Wado Ichimonji ) เป็นดาบเล่มสำคัญที่สุดของโซโร ซึ่งเป็นดาบของอดีตคู่แข่งคนสำคัญของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ปกติโซโรจะคาบเล่มนี้ไว้ที่ปากถ้าใช้ครบ 3 เล่ม และพกติดตัวเพื่อระลึกถึงเธอเสมอ
- ดาบสีแดง ซังได คิเทซึ (ญี่ปุ่น: 三代鬼彻 Kitetsu Sandai ) ดาบอาถรรพ์ ใครถือดาบนี้มีอันเป็นไปเป็นดาบที่เลือกผู้ใช้ โซโรทดสอบโดยการโยนขึ้นและปล่อยให้ดาบหมุนลงมาหาแขน ปรากฏว่าไม่เป็นไร ลุงเจ้าของร้านดาบในเมือง ล็อกทาวน์ ของร้านจึงยกให้ จะใช้มือซ้ายถือดาบเล่มนี้
- ดาบสีเทา ยูบาชิริ (ญี่ปุ่น: 雪走 Yubashiri ) เจ้าของร้านดาบ ถูกใจในการทดสอบของโซโรจึงให้ดาบเล่มนี้มาอีก (พังไปจากการต่อสู้)
- ดาบ ชูซุย (ญี่ปุ่น: 秋水 Shusui ) ได้มาจาก ซอมบี้ซามูไรในตำนาน ริวมะ และสู้ชนะถึงได้มา
ค่าหัว
- 60 ล้านเบรี หลังจากกำจัดนักล่าโจรสลัด 100 คนที่เมืองวิสกี้พีคและ MR.1
- 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุและองค์กร [CP9]
- 320 ล้านเบรี หลังจากจัดการ พิก้าและเหล่าผู้บริหารระดับสูงของโดฟามิงโก้
พลังและความสามารถ
- วิชา 3 ดาบ
- ทักษะฮาคิแห่งเกราะ
- ทักษะฮาคิแห่งการคงอยู่
- ทักษะม้วนตัวหลบ
- ทักษะกระโดดสูง
ท่าไม้ตาย
- ฝ่ามือประกบดาบ
- วิชาไร้ดาบพยัคฆ์
- วิชาดาบเปล่งพร
- ดาบปราบพยัคฆ์
- ดาบพันโลก
- คลื่นยักษ์
- ดาบวัวคะนองศึก
- ดาบปูงาซามิ
- เพลงดาบสิงโต
- เพลงดาบสายลม 36 ประการ
- เพลงดาบสายลม 108 ประการ
- ดาบพิฆาตอีกาดำ
- เพลงดาบสลาตัน
- เพลงดาบราโชมอน
- เพลงดาบปีศาจวัว
- เพลงดาบหมาป่า
- เพลงดาบเล็บทะลวงไส้
- เพลงดาบสองเล่มสองคม
- เพลงดาบปีศาจ
- ไต่หอคอย
- หอคอยย้อยศร
- ซามอน (ตราทราย)
- เพลงดาบ 3 เล่ม พินลูกบอลเสือภูเขา
- เพลงดาบ 9 เล่มเทพพิทักษ์อาชูร่า
- เทพพิทักษ์อาชูร่าหมอกสีเงิน
- เพลงดาบพร 72 ประการ
- วิชา2ดาบนิงิริ(ท่าผ่าแบบที่สอง(นิงิริ ในซูชิ หมายถึง ปลาเนื้อขาว)
- โทโร่(ดาบทะยานฟ้า หมายถึง ตรงท้องปลาที่มีมัน เป็นส่วนที่ดีที่สุดของปลา)
- โอโทโร่(ดาบทะยานฟ้าดัดแปลง)
- ฮิราเมคิ(ฟ้าแลบ)
- วิชาดาบเดียวอิไอ(ราชสีห์คำราม)
- กอริลาหนึ่ง
- กอริลาสอง
- วิชาสามดาบ ดาบนิกริ
- วิชาสามดาบมังกรสะบัดหาง
- วิชาสามดาบเสือดาว
- อาชูรา
- ดาบคู่อูคิไอ
- วิชาดาบเดียวมังกรบินเปลวเพลิง
- ดาบพร 36 ประการ
- ดาบพร 360 ประการ
- ดาบหกวิถี
- ดาบพร 1080 ประการ
Konami
นามิเป็นต้นหนของเรือ และเป็นคนที่ 3 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเป็นคนแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่โผล่มาในอะนิเมะ ในหนังสือ เธอเป็นคนที่ 3 ที่ยอมร่วมกลุ่มจริงๆ ก็เป็นคนที่ 5 เธออาจจะเป็นต้นหนที่ดีที่สุดในแกรนด์ไลน์ และเธอก็เป็นนักล่าสมบัติอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมาก ๆ ด้วย
นามิเป็นต้นหนที่ดีมาก สามารถบ่งบอกความแตกต่างของอากาศได้ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางหลุดพ้นจากอากาศแสนวุ่นวายของแกรนด์ไลน์ได้ มีอยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรักเบลล์เมียร์ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิคือการได้วาดแผนที่โลกที่สมบูรณ์แบบของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จสำหรับทุกคนเป็นเพราะทะเลที่ห้าวหาญของแกรนด์ไลน์ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโคยาชิอยู่
ลักษณะของนามิคือ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง และเกวียน หมายถึงอดีตของเธอ ซึ่งตอนแรกจะเป็นรอยสักที่บ่งบอกว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน เธอมีความสูง 169cm สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะเคยบอกว่านามิถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแมว และสีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม มีกลิ่นตัวเหมือนส้ม “Mikan” และเงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิชอบกินที่สุดคือส้มและผลไม้ทุกชนิด
ในเรื่องของการต่อสู่ นามิไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระบองของเธอ และสามารถกำจัดโจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศอยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรกๆ กระบองถูกสร้างมาเพื่อใช้ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่างๆ มาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงานปาร์ตี้มาเป็นกระบองที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้สามารถทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิคบางอย่าง คือ “ทันเดอร์โบลท์ เทมโป” ที่ใช้คูลบอลกับฮีทบอลผสมกันให้เป็นเมฆ และส่งทันเดอร์บอลไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่และสามารถสร้างภาพมิราจ เป็นต้น แต่ต่อมาอีก 2 ปี นามิได้อยู่บนเกาะท้องฟ้าที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการควบคุมสภาพอากาศกระบองคุริมะจึงเปลี่ยนเป็น "กระบองคุริมะซอคเซรี่" แล้วพอจบศึกเดรสโรซ่าอุซปได้ดัดแปลงให้กระบองคุริมะมีความสามารถที่ดียิ่งกว่าเดิม แต่อุซปลืมใส่ไป 1 อย่าง
ค่าหัว
ค่าหัวของนามิ 16 ล้านเบรี หลังจากจัดการแคริฟอร์และองค์กร CP9 ค่าหัวของนามิ 66 ล้านเบรี หลังจากจัดการกลุ่มโดฟลามิงโก้
ท่าไม้ตาย
- กระบองคุริมา
- ท่าที่ใช้ในงานปาร์ตี้ 3 ท่อนแรก
- ฟายน์เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกมาต่อเป็นรูป 3 เหลี่ยมแล้วกดปุ่มด้านข้างจะมีนกพิราบบินออกมา
- คลาวด์ดี้เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนอันเดิมมาต่อกันเป็นรูปปืน L แล้วกดปุ่มจะมีดอกไม้ออกมา
- ธันเดอร์เทมโป เป็นการนำกระบอง3ท่อนเดิมมาต่อกันเป็นรูป Y จับที่ปลายทั้ง2แล้วกดปุ่มก้จะมีหมัดออกมา)
- เรนเทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกไม่ต้องต่อเป็นรูปแค่กดปุ่มก้จะมีน้ำพุ่งออกมา
- ท่าที่ใช้ในการต่อสู้ 3 ท่อนหลัง
- ฮีทบอล เป็นการสะบัดการเป่ากระบองแต่ละอันจะมีฟองอากาศเกิดขึ้น ท่อนแรกฟองอากาศร้อน
- คลูบอล ท่อนที่ 2 ฟองอากาศเย็น
- ธันเดอร์บอล ท่อนที่ 3 ฟองอากาศสายฟ้า
- ไซโคลนเทมโป เป็นการนำท่อนร้อนและเย็นมาประกบกันเป็นรูป + จากนั้นปาออกไปมันจะเป็นบูมเมอร์แรงแต่ท่ามันไปกระทบอะไรมันจะเกิดลมระเบิดทันที
- ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า
- ทอเน็ตเทมโป/ทอนาโดเทมโป เป็นการนำกระบองมาต่อเป็นรูป T จากนั้นจับปลายด้ามหาง T กดปุ่มจะมีนกไขลานออกมามัดตัวศตรูไว้แล้วกระบองก็จะหมุนๆจนพุ่งออกไป
- ฟ็อคเทมโป เป็นการใช้คลูบอลทำให้สะภาพอากาศรอบๆเย็นจัด จากนั้นใช้ความร้อนให้ระเหยขึ้นอากาศพอเย็นกับร้อนกระทบกันจะกลั่นตัวเป็นไอน้ำเกิดเป็นหมอก
- มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- ธันเดอร์สทอร์มเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นนำกระบอง 3 ท่อนหลังมาต่อเป็นรูป 3 เหลี่ยมแล้วขว้างเข้าไปในเมฆ จะเกิดฟ้าคะนอง(ฝนตก-ฟ้าผ่า)
- กระบองคุริมาเพอร์เฟ็ค
- เป็นกระบองที่ถูกพัฒนาจากเดิมโดยเพิ่มไดอัลที่ส่วนหัวกระบองทั้ง 3 ท่อนที่ใช้ต่อสู้และเสริมความยาวนิดหน่อย
- ธันเดอร์ชาร์จ กระบองใหม่นี้ส่วนหัวจะเป็นวงกลมเพื่อให้สะดวกในการใช้ท่าใหม่ ๆ ท่านี้พอกดปุ่มจะมีลูกบอลอากาศไฟฟ้าคลอบส่วนหัวกระบอง
- คลูชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศเย็นคลอบส่วยหัวกระบอง
- ฮีทชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศร้อนครอบส่วนหัวกระบอง
- ธันเดอร์บอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศสายฟ้า
- คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
- ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
- สวิงอาร์ม ใช้ธันเดอร์ชาร์จจากนั้นกดปุ่มปล่อยเชือกต่อกับกระบองอีก 2 ท่อนควงแล้วฟาดออกไป
- ไซโคลนเทมโป คล้ายของเก่าแต่จะไม่เหมือนเดิมเพราะไม่ใช่บูมเมอร์แรงอีกแล้วหักปลายกระบองร้อนเย็นมาต่อคู่กันIIจากนั้นคว้างออกไปจะเกิดลมระเบิด
- คลาวด์ดี้เทมโป ไม่เหมือนของเดิมแต่จะต่อเป็นรูปเดิมจะเกิดเมฆสีขาวออกมา
- เรนเทมโป ไม่เหมือนของเดิมใช้คลูบอลใส่คลาวด์ดี้เทมโปที่อยู่บนฟ้าจากนั้นจะเกิดฝนตก
- ดาร์คคลาวด์เทมโป ใช้ฮีทชาร์จคลูชาร์จมาประกบกันจากนั้นใส่สายฟ้าเข้าไปจะเกิดเมฆสายฟ้าขนาดเล็กอยู่ตรงหน้า
- ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
- ฟาตา โมร์กานา/ภูตเนรมิต ใช้มิราจเทมโปกับความหักเหของแสงทำให้เกิดภาพลวงตาของผู้ใช้ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย
- มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- กระบองคุริมาซอคเซรี่
- มิราจ ใช้คลูเอ้จ(เหมือนคลูชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม)กวาดไปกลางอากาศที่มีการคำนวณการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- กัสซอด มีฟองออกมาจากกระบอง เมื่อฟองแตกจะมีลมพุ่งออกมาโจมตีศัตรู(ชื่อท่าแปลว่าลมกระโชก)
- แบล๊กบอล ฟองอากาศที่มีเมฆสายฟ้าอยู่ข้างใน(ชื่อท่าแปลว่าบอลสีดำ)
- ไรอัลร๊อด ใช้แบล๊กบอลต่อกันเป็นโซ่ยาว พอเมฆออกมาจากฟองให้ฟาดออกไป
- ธันเดอร์แทร็ป สร้างเมฆดำออกมาวางกับดัก (ชื่อท่าแปลว่ากับดักสายฟ้า)
- ฮีทเอ้จ เหมือนฮีทชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม(ชื่อท่าแปลว่าไข่ร้อน)
- มิลกี้บอล สร้างเมฆของเกาะแห่งท้องฟ้าออกมาเป็นทรงกลม ขนาดและจำนวนตามใจผู้ใช้
- เวทเทอร์เอ้จ ปล่อยไข่จากกระบองขึ้นพอไข่แตกกลางอากาศจะมีเมฆสายฟ้าออกมา(ชื่อท่าแปลว่าไข่สภาพอากาศ)
- ธันเดอร์บลีดเทมโป บังคับสายฟ้าที่ออกมาจากเมฆได้ ใช้ร่วมกับเวทเทอร์เอ้จ และเมฆสายฟ้าทุกอัน
- ชาวเวอร์เทมโป สร้างเมฆฝนขนาดพอกับตัวไว้ใช้อาบน้ำ(ชื่อท่าแปลว่าสภาพอากาศอาบน้ำ)
- มิลกี้โรด สร้างถนนเมฆของเกาะลอยฟ้า (ชื่อท่าแปลว่า ชื่อเฉพาะของถนนเกาะลอยฟ้า)
- ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
- คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
- ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
- ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า
Usopp
อุซป(เป็นลูกของยาซปที่เป็นมือปืนให้กับกลุ่มโจรสลัดผมแดง)มีความสามารถพิเศษคือการใช้อาวุธเกี่ยวกับการยิงได้แม่นยำ รวมถึง หนังสติ๊ก หรือ ปืนใหญ่ลักษณะนิสัยเป็นคนโกหก และขี้ขลาด ถึงแม้ว่าอุซปจะมีพละกำลังน้อยกว่าคนอื่นในเรือ อุซปได้เข้าร่วมการต่อสู้ทุกครั้ง โดยหลายๆ ครั้งได้รับบาดเจ็บกลับมา
อุซปผู้ที่มีความสามารถในการยิงปืน ในการวาดรูป และการผลิตสิ่งของจริงๆหรือแหกตามาก อุซปเป็นคนขี้กลัวแต่ก็ตลกมาก ซึ่งอุซปเป็นคนออกกลอุบาย มากมายให้กับพวกลูฟี่ ซึ่งนอกนามิที่ออกกลอุบายแล้วก็มี อุซปนี้แหละที่คิดแผนดีมาก ซึ่งอุซปนั้นจะชอบหัวเราะกับการที่ลูฟี่ เลียนแบบโซโล ซันจิและช็อปเปอร์มาก และอุซปว่างๆจะชอบหลอกล่อช็อปเปอร์ด้วยความสนุกสนาน ปัจจุบันอุซปมีค่าหัว 30 ล้านเบรีซึ้งมีผลมาจากการที่จัดการ cp9 และยิงธงของรัฐบาลโลกลงมาจึงทำให้ได้ฉายาว่า โซเงคิง (ที่จริงก็คืออุซปอะนะ) ตอนนี้กำลังต่อสู้กับออส และ เก็กโค โมเรีย เพื่อชิงเงาของตนกับคืนมา (ไม่งั้นร่างจะสลายเมื่อโดนแสงอาทิตย์)แล้วไปหมู่เกาะชาบอนดี้แล้วได้พบกับซิลเวอร์ เรย์ลี่เลยเผลอถามว่าสมบัติวันพีซอยู่ที่ไหนจนลูฟี่โกรธมากจึงหยุดถามทันทีแล้วตลอดใน 2 ปีนี้ อุซปได้ฝึกแล้วเก่งขึ้นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงของเรือ 2 ปีผ่านมาอุซปก็สามารถใช้พืชเป็นลูกกระสุนแทนได้ ที่เดรสโรซ่าอุซปมีบทบาทมากคือสู้กับเทลโบลจนพ่ายกับทำให้ซูการ์ช็อกตกใจด้วยหน้าตาล้อเลียนของตน จนพวกขอเล่นคืนร่างเคารพอุซป แต่พอโดฟลามิงโก้ใช้กรงนก กับให้อุซปมี 5 ดาว เท่ากับเงิน 500 ล้าน อุปจึงถูกไล่ล่า จากนั้นเค็นบุนโชคุฮาคิในตัวอุซปตื่นขึ้นมา ยิงกระสุนหุ่นูปหน้าตาล้อเลียนของอุซปใส่ซูการ์จากระยะไกลจนสำเร็จ
โซเงคิง
หลังจากอุซปได้แยกตัวออกจากกลุ่ม อุซปได้ปลอมเป็นโซเงคิงเพื่อเข้ามาช่วยเหลือพวกของ มังกี้ ดี ลูฟี่ ในตอนที่จะต้องไปช่วยเหลือ นิโค โรบิน จากพวกCP9 มีฝีมือการยิงปืนพอ ๆ กับ อุซป โดยโกหกว่าโซเงคิงอาศัยอยู่ที่เกาะนักแม่นปืน ถ้าถามเค้าว่าเกาะนักแม่นปืนอยู่ที่ไหน เค้าจะตอบว่าอยู่ในใจของเราไง
อาวุธ
- แบล็คคาบูโตะ
- ปืน
- ค้อน
ค่าหัว
- โซเงคิงมีค่าหัว 30ล้าน
- ล้านเบรีหลังจากเผาธงของรัฐบาลโลก (แต่ในนามอุซปไม่มีค่าหัว) ตอนนี้ ค่าหัว 200ล้าน ได้ฉายา God อุซป มาจากการช่วยของเล่น ในเมือง ให้ กลายเป็นมา ค่าหัวมากที่สุด เป็น อันดับ 3 รองจาก โซโล
ท่าไม้ตาย
- กระสุนหนามดำ
- กระสุนคิวบ์
- กระสุนมารดำ (กระสุนสีดำติดยาพิษ)
- กระสุนแสง
- กระสุนโปรยปราย
- กระสุนลวงตา
- กระสุนหนามนรก
- กระสุนดินดำอุซป
- กระสุนควัน
- กระสุนซอส
- กระสุนเพลิง
- หนังยางอุซป
- กระสุนไข่เน่า
- กระสุนไข่สด
- กระสุนดินระเบิดชนิดแรง
- กระสุนซอสทาบาสโก้ (ซอสพริก)
- ฆ้อนปอนด์อุซป
- อุซป โอฮี้โฮ้
- กระสุนงูแดง
- คาถาอุซป
- แฟลชเคชชับ
- เบรธไดอัล
- ปืนกระสุนดาวกระจายชูริเคน
- กระสุนระเบิดหนาม
- กระสุนเพลิงสามนัด
- อิมแพ็ค
- กระสุนดินระเบิดแห่งจอมซุ่ม
- อุซป ฮอปปิ้ง
- อุซป สกายไรเดอร์
- อุซป แฮมเมอร์
- กระสุนพริกไทย
- อุซปมูมเบอร์แรง
- กระสุนควันแห่งจอมซุ่ม
- กระสุนไฟฟินิกซ์
- กระสุนนกไฟ
- กระสุนแสงดำ (กระสุนแมลงสาบ)
Sanji
- ค่าหัวปัจจุบัน 177,000,000 เบรี มีข้อที่พิเศษมากๆในใบหมายจับปกติจะเป็น DEAD OR ALIVE แต่ของซันจิเป็น ALIVE ONLY นั่นคือต้องจับเป็นเท่านั้นจึงจะได้รับค่าหัว (อดีตค่าหัว 77,000,000 เบรี)
- ถิ่นกำเนิด นอร์ทบลู (แต่ไปโตที่อีสท์บลู)
- กุ๊กประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
- อดีตรองเชฟของภัตตาคารลอยทะเล บาราติเอ / บุตรชายคนที่ 3 แห่งตระกูลวินสโม็ค
- ลูกศิษย์ของ เซฟขาแดง , อีวานคอฟ และกระเทยบนคามะบักกะ (เกาะสตรี 2)
- ผลปีศาจ ไม่มี
- ผู้ใช้ฮาคิ ได้ 2 แบบคือ ฮาคิเกราะ และ ฮาคิสังเกต (ถนัดใช้ฮาคิสังเกตมากกว่า)
- ผู้ใช้เพลงเตะ และขาในการต่อสู้
- ฉายา ขาดำ
- วันเกิด 2 มีนาคม
- อายุปัจจุบัน 21 ปี (ก่อนไทม์สคิป 19 ปี)
- ส่วนสูง 180 เซนติเมตร (ก่อนไทม์สคิปสูง 177 เซนติเมตร)
- ความฝัน ค้นหาออลบลู ทะเลที่เป็นแหล่งรวมของทะเลทั้ง 4 ที่มีปลาจากทุกที่อาศัยอยู่ที่เดียวกัน
- ชื่อจริง วินสโม็ค ซันจิ (ヴィンスモーク・サンジ Vinsmoke Sanji)
- เกร็ดข้อมูลเล็กๆน้อยๆจาก SBS ของซันจิ :
- ซันจิ โซโล ลูฟี่ และ อุซป เป็นพวกที่ไม่เคยป่วย
- กรุ๊ปเลือดของซันจิคือ S (RH-) เป็นชนิดที่หายากมาก
- ชื่อซันจิ 三時 san-ji มีความหมายว่า 3 นาฬิกาตรง
- ซันจิสูบบุหรี่ 2 ยี่ห้อ ก่อนเข้าโลกใหม่สูบยี่ห้อ King Ground (ราชันย์พิภพ) และเข้าโลกใหม่แล้วสูบยี่ห้อ Death (ความตาย)
- ในตอนแรกซันจิเกือบจะได้ชื่อว่า "นารูโตะ" แต่ในขณะนั้นได้มี เรื่องนารูโตะอยู่ใน "จัมป์" แล้ว จึงต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
- ซันจิมีความสามารถพิเศษในการวัดทรีไซส์(สัดส่วน)ของผู้หญิง และเป็นซันจิที่บอกสัดส่วนของนามิและโรบิ้น
- เครื่องดื่มที่ชอบคือชาดำ
- อาหารที่ชอบคือ สไปซี่ซีฟู๊ดพาสต้าเสิร์ฟพร้อมกับชาดำ
- อาหารที่ไม่ชอบคือ หัวบุกหรือคอนยัคกุ (เพราะมันไม่ค่อยมีสารอาหารเท่าไหร่)
- ฤดูที่ชอบ ฤดูโรบิ้นจังบนเกาะคุณนามิ
- เปรียบเทียบซันจิกับสัตว์คือ เป็ด
- เปรียบเทียบซันจิกับสีคือ สีน้ำเงิน
- ถ้าไม่ได้เป็นโจรสลัด ซันจิจะเป็นพนักงานในร้านเสริมความงาม
- ถ้าเป็นคนจริงๆซันจิจะเป็นคนฝรั่งเศส
- ซันจิอาบน้ำทุกวัน
- ตัวซันจิมีกลิ่นเหมือนคนสูบบุหรี่และกลิ่นอาหารทะเล
- ถ้าเปรียบกลุ่มหมวกฟางเป็นครอบครัว ซันจิคือลูกชายคนที่ 2
- ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้ของซันจิคือดอกเดลฟิเนียม (Delphinium Flower)
- ถ้าซันจิเป็นคนญี่ปุ่นจะเป็นคนจังหวัด เกียวโต และจะชื่อว่าคุณคุโรอาชิ (คุณขาดำ)
- ซันจิถนัดทำอาหารทะเลมากที่สุด แต่จริงๆก็ทำได้ทุกอย่าง กลุ่มหมวกฟางคนอื่นๆนอกจากซันจิที่ทำอาหารได้เป็นเรื่องเป็นราว คือ นามิ อูซป และโรบิน นอกนั้นทำได้แต่ห่วย
- เวลานอนของซันจิ นอนตอนเที่ยงคืน ตื่นตอนตี 5 รวมๆแล้วนอนวันละประมาณ 5 ชั่วโมง (กลุ่มหมวกฟางจะมีการผลัดเวรเฝ้ายามเพื่อคอยเฝ้าดูเรือในตอนกลางคืน 2 คน คือหัวเรือและท้ายเรือ โดยทุกคนจะสลับกันกะละ 2 ชั่วโมง)
- เกิดที่นอร์ทบลู เป็นบุตรชายคนที่ 3 แห่งตระกูลวินสโม็ค ในอดีตเป็ถูกพามาอีสต์บลูทำงานเป็นครัวบนเรือ แต่ว่าเกิดเหตุเรือโจรสลัดบุก แล้วซันจิตกทะเล กัปตันกลุ่มโจรสลัดช่วยซันจิ ส่วนเรือของทั้ง 2 ก็ล่มเพราะอุบัติเหตุทางทะเล ทั้งขึ้นมาเกาะโดยแบ่งอาหารกัน โดยเซฟ มอบถุงอาหารทั้งหมดให้ซันจิ ส่วนเซฟกินขาขวาของตัวเอง โดยทั้ง 2 ติดอยู่บนเกาะร้าง วันที่ 70 ซันจิไปหาเซฟเพื่อแย่งอาหารและรู้ความจริงจากเซฟ ตลอด 85 วัน ก็มีเรือมาช่วย แล้วจากนั้นก็ร่วมมือเซฟเอาสมบัติไปขายกับเปิดภัตตาคารลอยทะเล บาราติเอที่แถบอีสบลู โดยซันจิเป็นรองเชฟ แต่ว่าก็ทำร้ายลูกค้าประจำ พอลูฟี่มา เซฟเห็นว่าถึงเวลาที่ซันจิไปตามความฝัน แต่ซันจิก็ไม่ไปเพราะว่าตนอยากมดแทนบุญคุณเซฟ พอพวกครีกมาบุกแล้วลูฟี่ช่วยสู้
- หลังจากนั้นซันจิได้สนิทกับลูฟี่ จนเซฟจงใจให้ซันจิไปกับลูฟี่ ด้วยการให้พนักงานในร้านทั้งหมดแกล้งหลอกว่าซุปซันจิห่วย ซันจิโกรธจนโดนเซฟชก แต่ซันจิไม่ยอมจนแอบฟังจนเข้าใจ แล้วร่วมกลุ่มกับลูฟี่ หลังจากนั้นก็พ่อครัวประจำเรือกลุ่มหมวกฟาง ลักษณะเป็นชายใส่สูทดำแบบดับเบิ้ล ผมเหลืองด้านหน้ายาวจนปิดตาข้างซ้าย เพราะ 2 คิ้วข้างหมุนเป็นไม้ม้วนไปทางขวา ไม่นิยมใช้มือต่อสู้เพราะถือว่า ใช้มือในการปรุงอาหารเท่านั้น แต่ถ้าคู่ต่อสู้เป็นอาหารจะใช้มือถือมีดสู้ เกลียดพวกที่เอาอาหารมาเล่นและพวกที่ดูถูกอาหาร โดยใช้ท่าในการต่อสู้จากเพลงเตะ แทบทั้งสิ้น โดยชื่อท่าจะดัดแปลงมาจากชื่ออาหาร กับภาษาฝรั่งเศส มีความใฝ่ฝันในการตามหาออลบลู นิสัยลามกชอบหลีสาวๆหน้าตาดี โดยเฉพาะนามิ และโรบิน (มีคติจะไม่เตะผู้หญิงแม้ต้องถูกฆ่าตาย) ในตอนนลิตเติ้ลกราเด้น ติดต่อกับครอคโคไดล์ จึงปล่อยข่าวลวงว่ากลุ่มหมวกฟางถูกกำจัด เพื่อกับจะได้ไม่ถูกไล่ล่าอีก ในตอนอาณาจักรอลาบาสต้า ที่พวกลูฟี่โดนจับไปหมดได้วางแผนหลอกครอคโคไดล์ เพื่อไปช่วยทุกคน พอเจอMr.3 ซันจิก็ทำร้ายเพื่อให้Mr.3 ยอมทำกุญแจไขกรงเพื่อช่วย ในตอนหลังจากที่อุซปออกจากกลุ่ม กับกลุ่มหมวกฟางโดนใส่ความ ซันจิเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ถูกต้องเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะไม่มีใครเห็นหน้าซันจิ จึงไปตามสืบสะดวกกับขอแยกตัวไปสืบเอง โดยพอทราบว่าโรบินกับอุซปโดนจับ จึงคิดไปช่วย พอรู้ว่าแฟรงกี้ถูกจับ จนทั้ง 3 ร่วมมือกับหาทางช่วยโรบินแต่พลาด จนแฟรงกี้ถ่วงเวลาให้หนี ซันจิกับอุซปจึงกลับไปรวมตัวกับกลุ่มหมวกฟาง หลังจากสู้ชนะจาบรา ซันจิมีค่าหัว (รูปบนใบค่าหัวนั้นเป็นเพียงรูปวาดเนื่องจากทางช่างภาพ ตอนถ่ายลืมเปิดฝา จึงต้องวาดเอา)
- หลังจากที่ถูกส่งไปอยู่ที่เกาะโมโมอิโระ ตอนแรกเข้าใจผิดว่าเป็นเกาะสตรี พอรู้ว่าเป็นเกาะกะเทยก็กลัวกับวิ่งหนีกะเทยจนซันจิกลายเป็นกะเทย เมื่อจบสงครามอ่านข่าวเรื่องสงครามจึงกลับเป็นผู้ชายอีกครั้ง บอกอิวานคอฟว่าคือพรรคพวกของลูฟี่ แต่ไม่เชื่อเพราะหน้าไม่เหมือนใบประกาศจับ พอได้ทราบสารของลูฟี่ ตลอด 2 ปี ก็วิ่งหนีกะเทยและต่อสู้กับกะเทยจน ใช้วิชา6 รูปแบบได้แล้วคือ "เดินชมจันทร์" แต่ซันจิเรียกว่า สกายวอร์ค และ เพลงหมัดกะเทย ที่เป็นวิชาต่อสู้กับทำอาหาร กับใช้ฮาคิได้ 2 ประเภท กับผมยาวด้านหน้าเปลี่ยนไปปิดตาขวาแทน แล้วกลับมาเข้ากลุ่มโดยในหน้าปกหนังสือพิมพ์ซันจินั้นเป็นรูปตอนหันหลัง
- แล้วพอกลับเข้ากลุ่มอีกครั้งซึ่งซันจินั้นถ้าเห็นผู้หญิงจะเลือดกำเดาออกมามากเกินไป ถึงขั้นเกือบเสียชีวิต แต่ตอนเกาะเงือกไปเล่นกับพวกนางเงือก จนเลือกกำเดาออกมามากเกินไป จนใกล้หมดตัว แต่ไม่มีเงือกหรือมนุษย์เงือกให้เลือดได้ เพราะเป็นกฏแต่ได้รับเลือดจากกระเทยทำให้เริ่มหายดี พอซันจิรู้ก็เข้าก็เป็นบ้าจนเสียสติ พอเห็นเจ้าหญิงเงือกถึงกับช็อคจนเป็นหิน แล้วหายดีเรื่องผู้หญิงดังเดิม ไม่งั้นซันจิได้ตายทันที ในตอนเดรสโรซ่าซันจิอยู่ในกลุ่มปกป้องเรือ แต่ก็ออกไปเพราะได้ยินว่าสาวสวยจึงไปอยู่กลุ่มที่ช่วยคันจูโร่พอทราบว่าเรื่องข่าวลวงจึงติดต่อลอว์ กับรีบไปช่วยพวกนามิจากโดฟลามิงโก้แต่แพ้กับเจ็บหนัก จนลอว์ช่วยเอาไว้ ตอนถึงโซค่าหัวเพิ่มขึ้นโดยเป็นภาพถ่ายตอนวิ่งเล่น ทำตัวลามก กับพวกนางเงือกบนเกาะมนุษย์เงือก แต่จับเป็นเท่านั้น
- พอถึงโซซันจิเป็นคนเก็บหัวใจของซีซาร์กับสั่งให้ซีซาร์ช่วยเผ่ามิงค์ กับขู่ตลอด พอพวกบิ๊กมัมมาโซ คือพีคอมส์กับกลุ่มโจรสลัดไฟร์แท้งค์ของเบจ พอเบจทำร้ายพีคอมส์ กับเอาทุกคนเข้ามาในปราสาทเพื่อชวนซันจิไปงานเลี้ยงน้ำชาบิ๊กมัมกับต้องแต่งงานกับลูกสาวของบิ๊กมัม ตอนแรกซันจิไม่ยอม กับบอกให้เอาซีซาร์ไปแล้วจบเรื่อง พอซันจิโดนขู่จึงเขียนโน้ตในพวกนามิ กับถ่วงเวลาจนซันจิกับซีซาร์ถูกพาตัวไป โดยที่ซันจิยอมเพราะอยากไปจบเรื่องกับตัวการที่เป็นพ่อของตน พอไปถึงเจอพุดดิ้ง กับปฏิเสธพุดดิ้งไป เพราะอยากเดินเรือต่อ
- แล้วพออยู่บนประเทศเจลม่า เล่นงานยนจิได้อย่างง่ายดาย กับตะคอกพ่อ โดยบอกว่าจะมาแต่งงานเสร็จแล้วออกเดินเรือต่อทั้งยืนยันว่าตัดขาดกับครอบครัว กับเกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้วก็ได้รับความพ่ายแพ้กลับมาแล้วยังถูกใส่กุญแจข้อมือระเบิดหินไคโรแบบเดียวกันกับมังกรฟ้าเพื่อกันซันจิหนี ถ้าหนีออกจากประเทศเจลม่า มือทั้ง 2 ข้างของซันจิจะระเบิด โดยคนถือกุญแจไขข้อมือคือ บิ๊กมัม พอครอบครัวมาอยู่กันครบ ซันจิกินข้าวกับครอบครัวกับีปากเสียงกันจากนั้นพบว่านิจิททำร้ายผู้หญิงก็โกรธ ยนจิพาซันจิมมาห้องลับกับบอกถึงการวิจัยของพ่อเรื่องโคลนนิ่ง พออิชิจิกับนิจิมาซันจิโจมตีนิจิทันที กับถูกขู่จนโดนฝาแฝดทั้ง 3 ทำร้ายกลับแล้วนึกถึงอดีต แล้วพอลูี่มาพาตัวกลับซันจิก็บอกไม่ได้ว่าเซฟเป็นตัวประกันกับเรื่องกุญแจมือระเบิด จึงได้แต่สู้กับลูฟี่
Nico Robin
นิโค โรบิน [Eng:Nico Robin Japan:ニコ・ロビン] เป็นนักโบราณคดีของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ก่อนที่นิโค โรบินจะมาเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเคยเป็นรองประธานขององกรณ์บาร็อค เวิร์ค โค้ดเนมเธอคือ "มิสออล ซันเดย์" เธอเป็นลูกเรือคนที่เจ็ดของโจรสลัดของกลุ่มหมวกฟาง นิโค โรบิน เป็นสมาชิกคนแรกที่เคยเป็นศัตรูกับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่ มาก่อน นิโค โรบินได้กิน ผลปีศาจที่มีชื่อว่าผล "ฮานะ ฮานะ" เธอจึงสามารถ ผลิชิ้นส่วนของร่างกายออกมาได้ตามที่เธอต้องการ ในช่วง 2 ปีของการฝึกฝน เธอได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนักปฏิวัติ ความฝันของเธอคือตามหา"เรียลโพเนกลีฟ" ที่บอกเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่แท้จริง เธอมีค่าหัว 130,000,000 เบรี
รูปร่างลักษณะ
นิโค โรบิน มีรูปร่างสูงเพรียว เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจแข็งแกร่ง ก่อน 2 ปี มีผมสีดำยาวถึงไหล่ หลัง2 ปี มีผมสีดำยาวถึงเอว ในฉบับอะนิเมะ เธอมีดวงตาสีฟ้า ในฉบับมังงะเธอมีดวงตาสีน้ำตาล เธอมีจมูกแข็งเหมือนสันหนังสือ เธอมีสีผิวค่อนข้างเข้มเล็กน้อย แต่หลังจากสองปีในอะนิเมะ เธอมีผิวขาว เธอมีความคล้ายแม่ของเธอมาก เธอมีแขนและขา ที่ยาวมาก โดยเฉพาะขาของเธอ ทั้งยาวและเรียวสวยงาม
ค่าหัว
- 79 ล้านเบรี ตั้งแต่อายุ 8 ปีเพราะเป็นคนเดียวบนโลกที่อ่านโพเนกลีฟได้ ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาลโลกเพราะเกี่ยวข้องกับ พลูตัน และหนีรอดจากการสังหารของ บัสเตอร์คอล ที่โอฮาร่า
- 80 ล้านเบรี หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เอนิเอส ล็อบบี้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากพวกลูฟี่และรอดพ้นจากการสังหารของ บัสเตอร์คอลเป็นครั้งที่2
- 130 ล้านเบรี
ท่าไม้ตาย
- ดอกไม้บานสิบหกดอก
- ดอกไม้บานยี่สิบดอก
- ดอกไม้บานสามสิบดอก
- ครัช (หักคอ)
- ทวิสต์ (บิด)
- ช็อค (ทุบ)
- กงล้อบาน
- แฮง (ทุ่ม)
- พาวน์ (เหมือนแฮงแต่ในญี่ปุ่นพูดว่าพาวน์)
- ชินโค ฟลู
- โทเรนต้าเฟลอร์
- ฟลิป
- เชสฟลูร์ (หกกลีบผลิบาน)
- โอจาฟลู
- สแล็ป (ตบ)
- แกร็ป (ขยุ้ม)
- แบนเต้ฟูลแคนดูล่า
- เชนเฟลอร์ (ร้อยบุปผาสะพรั่ง) วิง (บิน) หรือสไปเดอร์เน็ตและเดลฟิเนียม
- คิวโพเฟลอร์
- ดับเบิลครัช
- โดเซ่เฟลอร์ (ดอกไม้บาน 10 ดอก)
- พิเอลน่า เฟลอร์ (ต่อกิ่งสร้างขา)
- ดอกไม้ร้อยกลีบต้นไม้ใหญ่
- ซิสฟลู
- หมัดพันมือ
- เทรสเตอร์ฟลู ครัช
- เทรนต้าฟลู
- สองช่อผลิบาน
- ครัวโทร มาโน (ไม้ 4 ต้น) ครัช แฮง สแพงค์ หรือช็อค
- โอเชนตา เฟลอร์
- มิวเฟลอร์ (พันบุปผาสะพรั่ง)
- กิกันเทสโก มาโน (มือยักษ์)
- สแพงค์ (ตบ)
โดยท่าไม้ตายทั้งหมด มาจากตัวเลขในภาษาสเปน (เช่น Uno อูโน = 1, Dos โดส = 2, Tres เทรส = 3) และคำว่า ดอกไม้ ในภาษาฝรั่งเศส (Fleur เฟลอร์)
franky
แฟรงกี้นั้นเกิดที่ เซาท์บลู โดยเป็นลูกโจรสลัดคนหนึ่งและมาอยู่ที่แกรนด์ไลน์ตอนอายุของเค้าพึ่ง 4 ขวบเท่านั้น, หลังจากที่ถูกทอดทิ้งในตอนอายุ 10 ขวบ เขาก็ใช้ชีวิตเป็นช่างซ่อมเรืออยู่กับ ทอม ซึ่งทอมนั้นก็สร้างเรือของโกลด์ ดี โรเจอร์ นั่นเอง ที่มีชื่อว่า โอโร แจ๊คสัน แฟรงกี้และไอซ์เบิรกได้สร้างรถไฟทะเล ขึ้นมา หลังจากที่ สแปนดัม ได้แกล้งทอม แล้วจะเอา แบบแปลน Pluton มา หลังจากที่ ทอมไม่ยอมให้ Pluton ไป สแปนดัมเลยหาวิธีเอาเรือรบของแฟรงกี้ที่แฟรงกี้สร้างขึ้นมา มาโจมตีคดีในช่วงนั้น ทำให้ทอม ต้องกลายเป็นนักโทษแล้วโดนจับไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้แล้วสั่งประหารซะเนื่องจากสร้างเรือของ โกล์ด โรเจอร์ แล้วเอาโทษที่โดนเรือรบยิงเป็นข้อเสียสละแทนในการสร้างรถไฟทะเล หลังจากนั้น แฟรงกี้ซึ่งไม่ยอมแพ้และต้องการทอมกลับมาตอนที่ทอมถูกโดนลักพา ตัวไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้ แฟรงกี้ก็เลยโดนรถไฟทะเลชนบาดเจ็บขั้นสาหัสสุดๆ แต่แฟรงกี้นั้นก็ไม่ยอมแพ้เลยสร้างส่วนหน้าของร่างกาย ตนเองให้เป็นมนุษย์ไซบอร์ค หลังจากนั้น แฟรงกี้ หรือ คาติฟูแลม ก็กลับมาที่ วอเตอร์ 7 ซึ่งก็ได้มาอยู่และสร้างกลุ่ม แฟรงกี้ แฟมิลี่ ขึ้นมาและทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนเรือตลอดมา จนกระทั่งกลุ่ม ลูฟี่มาถึง วอเตอร์ 7 นั่นเอง... หลังจากเหตุการณ์ เอนิเอส ร๊อบบี้ จบลง แฟรงกี้นั้นได้บอกกับกลุ่มลูฟี่ว่าเอาเงิน 200 ล้านเบรีของลูฟี่เอาไปซื้อต้นไม้ อดัม เพื่อที่จะเอามาสร้างเรือ และเรือนี้ก็คือเรือ เธาซัน ซันนี่ นี่เอง
ค่าหัวของแฟรงกี้
- 44 ล้านเบรี
สาเหตุที่ แฟรงกี้มีค่าหัวถึง 44 ล้านก็เพราะว่าเค้าเป็นคนไปทำลาย เอนิเอส ร๊อบบี้ กับกลุ่มหมวกฟาง และกำจัดฟุคุโร่ 1 ใน CP9 บวกกับ เค้าเป็นคนที่มีแบบแปลนในตอนแรกครับ แต่เผาทิ้งไปแล้ว
สาเหตุที่ แฟรงกี้มีค่าหัวถึง 44 ล้านก็เพราะว่าเค้าเป็นคนไปทำลาย เอนิเอส ร๊อบบี้ กับกลุ่มหมวกฟาง และกำจัดฟุคุโร่ 1 ใน CP9 บวกกับ เค้าเป็นคนที่มีแบบแปลนในตอนแรกครับ แต่เผาทิ้งไปแล้ว
chopper
ก่อนจะมีชอปเปอร์ เคยมีบอบเบอร์(อังกฤษ: bobber) ซึ่งแปลว่ารถจักรยานยนต์ที่ถูก "ตัด" หรือนำชึ้นส่วนต่างๆ ออกเพื่อลดน้ำหนักตัวรถ โดยเฉพาะบังโคลน ตัวอย่างรถบอบเบอร์ในยุคแรกๆ ได้แก่ อินเดียน สปอร์ต สเกาต์ ปี ค.ศ. 1940 ซึ่งมีบังโคลนขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนตกแต่งอื่นๆที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งรถชอปเปอร์ก็ได้เติบโตมาในระหว่างนี้ โดยการเอาชิ้นส่วนตกแต่งออก และลดน้ำหนักตัวรถ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าทหารอเมริกันที่กลับจากสงคราม ได้ดัดแปลงรถโดยถอดชิ้นส่วนที่ ใหญ่ หนัก น่าเกลียด และไม่จำเป็นต่อกลไกการทำงานพื้นฐานของรถจักรยานยนต์ เช่นบังโคลนหน้า ไฟเลี้ยว หรือแม้แต่ห้ามล้อหน้า สปริงขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้อานก็ถูกนำออกไปเพื่อให้อานชิดกับตัวถังมากขึ้น พักเท้าแบบดั้งเดิมถูกแทนที่ด้วยแผ่นวางเท้าขนาดใหญ่ หล้อหน้าและถังน้ำมันขนาดใหญ่ถูกเปลี่ยนให้เล็กลง รถชอปเปอร์หลายคันถูกทำให้มีสีดำ หรือสีโลหะ (อังกฤษ: metallic) ขณะที่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์และท่อไอเสียได้รับการปัดเงาให้แวววาว มือจับถูกเปลี่ยนให้สูงขึ้น หรือเปลี่ยนให้ลู่ไปข้างหลังและชิดกัน ขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของ ปลายท่อไอเสียถูกออกแบบใหม่ บางครั้งเบาะนั่งตำแหน่งของผู้โดยสารก็จะมีพนักที่สูงกว่าหัวของผู้ขับขี่
brooh
ฮัมมิ่ง บรู๊คเคยเป็นพวกพ้องของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ ซึ่งเป็นกลุ่มของนักดนตรี มารวมตัวกัน และล่องเรือไปตามแกรนด ไลน์ จาก ทะเล เวสท์ บลู มา มากกว่า 50 ปีแล้ว และได้ถูกตามโดย ลาบูน ซึ่งเป็นปลาวาฬ และเป็นปลาวาฬที่ติดใจ อาโฟร ของบรู๊ค
บรู๊คสัญญาว่า เมื่อไปล่องเรือที่ แกรนด์ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอลาบูนแน่ๆ และให้ลาบูนรอที่เขา รีเวิร์ส เมาน์เทน เพราะว่าแกรนด์ไลน์เป็นที่ๆ อันตรายเกินไปสำหรับปลาวาฬตัวน้อยๆ หลังจากที่ได้ไปที่ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะ ถูกโจมตีจากศัตรูที่ไม่รู้จัก เพราะเขากินผล โยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดใหม่ได้ หลังจากที่ได้ตายแล้ว วิญญาณของบรู๊คจึงย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์ เขาหลงทางเพราะหมอกหนาของฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล เมื่อเขาเจอร่างของเขา ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากโครงกระดูก และผมทรงอาโฟร จึงได้เป็นโครงกระดูกที่เดินได้ ก่อนที่หมวกฟางจะมาถึง เขาถูกขโมยเงาโดย “เกกโค โมเรีย” ซึ่งขโมย เงาของบรูคไปไว้ที่ ซามูไรที่ชื่อว่า ริวมะ และเนื่องจากเขาไม่สามารถโดน แสงอาทิตย์ได้เพราะเขาไม่มีเงา เขาจึงหลบอยู่ในฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล ที่มีหมอกหนาบังแสงอาทิตย์อยู่ และหลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
บรู๊คสัญญาว่า เมื่อไปล่องเรือที่ แกรนด์ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอลาบูนแน่ๆ และให้ลาบูนรอที่เขา รีเวิร์ส เมาน์เทน เพราะว่าแกรนด์ไลน์เป็นที่ๆ อันตรายเกินไปสำหรับปลาวาฬตัวน้อยๆ หลังจากที่ได้ไปที่ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะ ถูกโจมตีจากศัตรูที่ไม่รู้จัก เพราะเขากินผล โยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดใหม่ได้ หลังจากที่ได้ตายแล้ว วิญญาณของบรู๊คจึงย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์ เขาหลงทางเพราะหมอกหนาของฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล เมื่อเขาเจอร่างของเขา ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากโครงกระดูก และผมทรงอาโฟร จึงได้เป็นโครงกระดูกที่เดินได้ ก่อนที่หมวกฟางจะมาถึง เขาถูกขโมยเงาโดย “เกกโค โมเรีย” ซึ่งขโมย เงาของบรูคไปไว้ที่ ซามูไรที่ชื่อว่า ริวมะ และเนื่องจากเขาไม่สามารถโดน แสงอาทิตย์ได้เพราะเขาไม่มีเงา เขาจึงหลบอยู่ในฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล ที่มีหมอกหนาบังแสงอาทิตย์อยู่ และหลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
บรู๊คไม่ได้มีความฝันว่าจะได้ไปให้สุดแกรนด์ไลน์ แต่เขาต้องการจะไปข้างหน้าของแกรนด์ไลน์ เพื่อไปเจอกับปลาวาฬลาบูน ที่เขาสัญญาไว้ว่าจะกลับไปหา และเล่าเรื่องการผจญภัยของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ และเล่นเพลงสุดท้ายที่กลุ่มโจรสลัด รัมบะเล่นไว้ก่อนจะตายให้ลาบูนได้ฟัง ซึ่งถูกอัดไว้ในโธนไดอัล เขากลัวว่าลาบูน จะจำเขาไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นโครงกระดูกไปแล้ว และไม่มีอาโฟร เขาจึงทำทุกอย่างที่จะปกป้อง อาโฟรของเขา และทำให้เขา เสียเปรียบ เพราะศัตรูจะเล็งแต่อาโฟรของเขา เช่น ตอนที่สู้กับริวมะ
ลักษณะและนิสัย
มีรูปร่างเป็นโครงกระดูก และมีผมทรงแอพโฟ่
มีความสามารถดนตรี เล่นเครื่องดนตรีได้ทุกชนิดอย่างมือโปร
มุขแป๊กตลอด
เขาสามารถรักษาตัวเองได้ด้วย นม
กระโหลกของบรูค สามารถเปิด-ปิด ได้ด้วย และสามารถใช้เป็นที่เก็บของ และนั่นเป็นที่ๆ เขาเก็บ โธน ไดอัล เอาไว้
พลังและความสามารถ
บรู๊ค เป็นนักดาบและนักดนตรี เขาสามารถใช้พลังของดาบของเขาร่วมกับเสียงของไวโอลิน เพื่อใช้พลัง ของเสียงโจมตี บรูคเคยเป็นนักสู้มาก่อน และเป็นผู้ดักซุ่มโจมตี ของราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง เพราะเขาเป็นโครงกระดูก เขาจึงมีความเร็วที่คล่องแคล่ว และสามารถกระโดดได้สูงมาก เพราะเขาตัวเบา ตัวเขาเบามาก จนขนาดวิ่งบนน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาตกน้ำเขาจะไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะเขามีพลังของผลปีศาจ
ท่าไม้ตาย
ฮัมเพลงสามก้าวดาวดิ้น ท่าฟันปลายคันศร
ถอดวิญญาณออกจากร่าง
ปาร์ตี้มิวสิค
คินโตเทียส แฟนตาเซีย
ท่าฟันปลายคันศร
บทเพลงนิทรา
ท่าฟันลำแสง
ท่าฟันเย็นเยือก
การเดินทางผจญภัย
หลังจากที่พวกลูฟี่สามารถปราบ เก็กโค โมเลีย หนึ่งใน "เจ็ดเทพโจรสลัด" ลงได้ บรู๊คก็ได้เงากลับคืนมาและได้ตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มกับพวกลูฟี่ เพราะเขาต้องการที่จะพบกับปลาวาฬลาบูน แต่ต้องร่วมเดินทางวนรอบโลกใหม่ก่อน (ครึ่งหลังของแกรนด์ไลน์) ในตอนที่ถูกคุมะใช้พลังวาร์ปไปที่เกาะแห่งหนึ่งในแกรนด์ไลน์ที่คนของเกาะถูก เผ่าแขนยาวจับตัวไปโชว์ บรู๊คได้ช่วยคนบนเกาะไว้แต่ได้ข่าวเรื่องสงคราม พร้อมกับเรื่องที่ลูฟี่เสียพี่ชายไป จึงพยายามไปยังที่รวมตัวกันอีกครั้ง แต่ถูกถูกเผ่าแขนยาวจับตัวไปโชว์แทน ตอนอยู่ในการแสดงโชว์กระดูกเดินได้ ได้รับข้อความจากลูฟี่จที่ส่งข่าวผ่านทางหนังสือพิมพ์โดยใช้รหัสลับ ว่าให้พบกันในอีก 2 ปี ที่หมู่เกาะชาบอนดี้ ตลอด 2 ปีบรู๊คได้เป็นซุปเปอร์สตาร์ของโลก โซลคิง ในตอนการแสดงครั้งสุดท้ายบรู๊ค ได้ทิ้งชื่อเสียงและแฟนคลับไปหากลุ่มโจรสลัดหมวกฟางอีกครั้งมุ่งหน้าสู่เกาะเงือก เพื่อเป็นทางผ่านไปสู่โลกใหม่ บรู๊คจึงได้เป็นสมาชิกคนล่าสุดของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
ค++
ตอบลบค++
ตอบลบ